เรื่อง กระหัง โดย ธาร ยุทธชัยบดินทร์



ท่ามกลางหมอกควันและอากาศเย็นจัดที่ปกคลุมไปทั่วหมู่บ้านในตอนกลางคืน กระหังตนหนึ่งบินผิวปากเป็นเพลงฮิปฮอปตรงเข้ามายังศาลาประชาคมอันโดดเดี่ยว และเต็มไปด้วยขี้ควายซึ่งยังไม่แห้งดีนักส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้ง มันนุ่งผ้าหยักรั้งสีเขียวเหมือนสีของขี้ควายเหล่านั้น เปลือยอกเหี่ยว ๆ และพุงป่อง ๆ อวดผิวขาวซีดเหมือนศพลอยน้ำมาทั้งคืน พร้อมกันนั้นก็ขี่สากกะเบือยาวเป็นวาดังที่เคยปฏิบัติมานานจนกลายเป็นประเพณีในหมู่พวกกระหัง แขนแห้งผอมกระหร่องทั้งสองข้างกระพือกระด้งฝัดข้าวขึ้น ๆ ลง ๆ การเคลื่อนที่ไปในอากาศของมันมีลักษณะคล้ายผีเสื้อผสมโดรน นอกจากนี้ยังดูเหมือนว่ามันจะไม่รู้จักความเหน็ดเหนื่อยเลยด้วยซ้ำ ขณะบินอย่างเสรีและหยิ่งผยองราวกับเป็นซุปเปอร์สตาร์
ยามนั้นชาวบ้านกำลังนอนหลับคุดคู้อยู่อย่างสบายอารมณ์ จึงไม่รู้ตัวว่ามหันตภัยกำลังเกิดขึ้นแล้ว คนยามที่มีหน้าที่ต้องเดินเฝ้าระวังหมู่บ้านในเวลากลางคืน และคอยตีแผ่นเหล็กบอกเวลาทุกชั่วโมง บัดนี้กลับเมากลิ้งไม่ได้สติอยู่บนแคร่ไม้ไผ่ใกล้กับลอมฟางข้างศาลาประชาคม สถานที่ซึ่งใช้เป็นแหล่งซ่อนไหเหล้าเถื่อนสูตรเด็ดใส่ยาฆ่าแมลงเล็กน้อยตามตำรา เป็นที่รู้กันดีอย่างลับ ๆ อยู่สักหน่อยว่า เหล้าเถื่อนในไหคือตัวอย่างสำหรับส่งไปทดสอบเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมอันดีงาม
กระหังยกไหเหล้าเถื่อนข้างตัวคนยามขึ้นมาจิบเล็กน้อย “เหล้าดี ๆ” กระหังพึมพำออกมา เหล้าเถื่อนในไหทำให้มันรู้สึกร้อนท้องเพราะภายในนั้นว่างเปล่า มันไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแล้ว เนื่องจากหาจังหวะเข้ามาในหมู่บ้านไม่ได้ ด้วยไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเล่าเรื่องกระหังให้ลูกหลานฟัง ไม่มีใครส่งเสียงร้องเรียกให้กระหังมาหลอกพวกเด็ก จนกระทั่งครอบครัวหนึ่งได้เริ่มต้นเล่าเรื่องของกระหังในตอนค่ำหลังอาหาร เด็ก ๆ สนุกกันมาก พากันตบไม้ตบมือหัวเราะชอบใจกันใหญ่ และในเวลาต่อมาก็ฝันอยากจะบินได้เหมือนกระหังบ้าง พวกเด็กเบื่อจักรยานเต็มทีเพราะมักโดนฝูงหมาประจำหมู่บ้านไล่กัดเสมอ ส่วนพวกผู้ใหญ่ หลังจากเล่าเรื่องผีหลอกเด็กแล้วก็พากันประสาทหลอนเสียเอง จนต้องรีบเข้านอนแต่หัวค่ำด้วยความหวาดกลัวตัวสั่น
ทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์หลายคนรับรู้แล้วว่ากระหังไม่ใช่ผี นักวิทยาศาสตร์พวกนี้จึงไม่กลัวกระหังเลย พวกเขาสันนิษฐานว่ามันเป็นพวกกลายพันธุ์ นักวิทยาศาสตร์บางคนพยายามตั้งทฤษฎีแหวกแนวออกไปอีกว่า แท้จริงกระหังคือ “อมนุษย์” มากกว่าจะเป็นพวกผ่าเหล่า ซึ่งก็ต้องวิจัยกันต่อไปตามประสานักวิทยาศาสตร์ผู้อยู่ไม่สุข เหมือนบรรดาเด็กซุกซนทั้งหลายในโลกของเรานั่นเอง
แต่ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตาม ฤทธิ์เดชหรือพลังของกระหังก็ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องขี้ ๆ อย่างที่มันชอบกินเป็นอาหารมื้อดึก แค่กระหังตัวเดียวกับสากตำข้าวของมันก็สามารถยึดหมู่บ้านไว้ได้อย่างสบายมือ หากจะมีใครกล้ายกพวกออกมาขับไล่มันในยามนี้ แต่เป็นเพราะชาวบ้านไม่คิดจะสู้อยู่แล้ว ชาวบ้านชอบงอมืองอตีนมากกว่า ด้วยอากาศกำลังเย็น ผ้าห่มกำลังอุ่น ทำให้ชาวบ้านรักที่จะนอนต่อไปบนที่นอนอันแสนสุข ทุกคนหลับไปในความหวานหวามที่กระหังร่ายมนต์ใส่ ในความหลับใหลนั้นชาวบ้านกลับมีความสุขมากกว่าตื่นขึ้นมารับรู้ว่ากระหัง่ได้บุกเข้ามาอีกแล้ว แต่หากชาวบ้านสะดุ้งตื่นขึ้นมาในตอนเช้า ทุกคนก็คงจะมีความสุขต่อไปอย่างเซื่องซึม พลังอำนาจจิตของกระหังสามารถทำให้ชาวบ้านรู้สึกเคลิบเคลิ้มเหมือนเสพยากล่อมประสาทได้ไม่ยาก ทั้ง ๆ ที่มันเป็นเพียงโลกแห่งมายาภาพเท่านั้น
“มันอยากทำอะไรก็เรื่องของมัน ขอแค่อย่ามาหลอกหลอน ปล่อยให้เราหลับสบายเท่านั้นก็พอ” ชาวบ้านหลายคนละเมอออกมาพร้อม ๆ กัน คนยามที่เมาหลับเหมือนจะได้ยินเสียงนั้นด้วยจึงละเมอโวยวายฟังไม่ได้ศัพท์ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกรนเสียงดังครอก ๆ ตามเดิม
กระหังยืนมองเหตุการณ์แล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น จากนั้นหันซ้ายหันขวาแลหาสิ่งโสโครก กระหังชอบกินของสกปรกเพราะเป็นแหล่งพลังงานความร้อนชั้นดี กล่าวกันว่าเศษอุจจาระเพียงหนึ่งอะตอมให้พลังงานเทียบเท่ากับพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ตกใส่โซล่าเซลล์ขนาดเท่ากับปีกกระด้งของมันตลอดทั้งปี พลังงานอันเอร็ดอร่อยนี้ช่วยให้มันบินได้ครั้งละนาน ๆ แต่หลังจากมันได้เรียนรู้จากข่าวลวงในโลกอินเทอร์เน็ตที่ส่งต่อกันให้เกลื่อนว่า เครื่องในมนุษย์มีรสชาติดีกว่าทุกสิ่งทุกอย่าง กระหังจึงมีอาหารในดวงใจที่จะต้องกินให้ได้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายรายการ
คืนนี้กระหังตั้งใจเข้ามายังหมู่บ้านเพื่อทดสอบรายการอาหารอันโอชะที่หมายตาเอาไว้ เช่น ตับหวานปานแก้วตา ไตสดรสหื่นหอม ลำไส้ใหญ่ใส่สารพัด ปอดหวานซ่านทรวงในไร้นิโคติน หัวใจอ่อนเยาว์ที่ยังไม่เคยแตกสลาย ฯลฯ มันจะต้องเป็นคืนที่อิ่มเอมและเอร็ดอร่อยอย่างไม่ต้องสงสัย กระหังครุ่นคิด ขณะยกมือลูบปากด้วยอาการกระหยิ่มยิ้มย่อง กระหังรุ่นพี่เคยบอกมันว่า ชาวบ้านจะไม่ตื่นขึ้นมาต่อสู้เลย คนที่รู้สึกตัวตื่นขึ้นกลางดึกก็แค่ปวดปัสสาวะเท่านั้น แต่พวกนี้จะพยายามหลับต่อไปด้วยความหวาดกลัวกระหัง ใครที่ยังไม่กลัวก็เป็นหน้าที่ของกระหังตัวใหม่ที่จะต้องหลอกหลอนให้พวกชาวบ้านหวาดกลัวจนฝังหัว ดังนั้นจึงหมดห่วงเรื่องที่ชาวบ้านจะลุกขึ้นสู้ ใครอยากกินอะไรก็จัดการกันตามสบาย กระหังรุ่นใหม่จงปฏิบัติตนในหมู่บ้านแห่งนี้ให้เหมือนอยู่บ้านตัวเอง นั่นจึงจะเป็นเรื่องดีงามและเหมาะสมที่สุด
เป็นที่รู้กันว่าหมู่บ้านนี้คือธนาคารอาหารของพวกกระหัง มีของอร่อย ๆ ให้เลือกกินไม่หวาดไม่ไหวราวกับตลาดสด กินให้อิ่มแล้วค่อยจากไป หรืออยากจะอยู่ให้นานแค่ไหนก็สุดแต่ใจจะกระสัน กระหังย่อมเลื่อนวันออกจากหมู่บ้านได้เสมอ ชาวบ้านจะไม่มีวันลุกขึ้นมาขับไล่อย่างแน่นอน ชาวบ้านชอบนอนหลับมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นการหลับอย่างมีความสุข หรือหลับเพราะกลัวกระหังมาหลอกหลอนก็ตาม รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้สามารถดาวน์โหลดมาอ่านเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์ขององค์กรกระหังภาคพื้นตะวันออก ในนั้นมีเรื่องราวให้อ่านมากมาย พวกกระหังจำนวนไม่น้อยชอบอ่านหนังสือ ซึ่งทุกวันนี้เปลี่ยนรูปแบบเป็นอีบุ๊กตามเทคโนโลยีสมัยใหม่ ใครก็สามารถดาวน์โหลดลงเครื่องคอมพิวเตอร์เก็บไว้อ่านได้ตามสบาย ดังนั้นกระหังจึงสามารถพัฒนาตัวเองให้ฉลาดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ และรักษาสายพันธุ์ของพวกมันเอาไว้ได้ด้วยดีมาโดยตลอด นับเป็นองค์กรที่เข้มแข็งที่สุดในแถบถิ่นนี้อย่างแท้จริง
ครั้นแล้วความคิดเกี่ยวกับเรื่องอาหารและอีบุ๊กในหัวของกระหังก็จางหายไป เมื่อมันมองเห็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนยามเลื่อนไหลออกจากกระเป๋ากางเกง กระหังก้มลงไปคว้าโทรศัพท์เครื่องนั้นขึ้นมาลูบคลำด้วยความประหลาดใจ ดูเหมือนว่ามันจะไม่เคยเห็นสิ่งประดิษย์นี้มาก่อน มันรู้จักแต่วิทยุ โทรทัศน์ และคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ มันพลาดเรื่องนี้ไปได้อย่างไรกัน กระหังถามตัวเองอยู่ในใจ
ทันใดนั้นเอง หน้าจอของโทรศัพท์เคลื่อนที่ก็สว่างขึ้น นิ้วมือที่มีเล็บสกปรกดำ ๆ ยาว ๆ ของกระหังคงไปแตะถูกปุ่มเปิดเข้าโดยบังเอิญ ด้วยความฉลาด มันทดลองแตะภาพไอคอนของแอพริเคชั่นบนหน้าจอ วินาทีต่อมาเสียงดนตรีแนวฮิปฮอปอย่างที่มันชอบก็ดังออกมาจากลำโพง กระหังโยกตัวไปตามจังหวะดนตรีอย่างมีความสุข
ในเวลาต่อมา มันก็ตกลงใจว่าจะต้องยึดโทรศัพท์เคลื่อนที่ไว้เป็นสมบัติของตนเอง ดนตรีทำให้มันหายหิวราวกับอิ่มทิพย์ ไม่สนใจว่าการหยิบฉวยทรัพย์สินคนอื่นจะป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะในเวลานี้มันรู้ตัวดีว่ามันนั่นเองคือกฎหมาย มันอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งสิ้น การทำตัวเป็นกฎหมายด้วยตัวของตัวเองย่อมดีกว่าทำตัวเหนือกฎหมายเป็นไหน ๆ กระหังคิดอย่างเอาบุญเอาคุณ


— บางตอนจากเรื่อง "กระหัง" ในหนังสือ "ตรอกคนบ้าและเรื่องสั้นอื่นๆ" โดย ธาร ยุทธชัยบดินทร์

ความคิดเห็น